แมวสฟิงซ์ แมวสุดขี้อ้อน มีวิธีการเลี้ยง และข้อควรระวัง
ลักษณะแมวสฟิงซ์ เป็นแมวที่มีความโดดเด่นไม่เหมือนแมวสายพันธุ์อื่นๆ แมวไม่มีขน แต่แท้จริงแล้วแมวสายพันธุ์นี้มีขนค่อนข้างอ่อนนุ่ม ปกคลุมอยู่ทั่วทั้งร่างกาย ด้วยลักษณะของขนที่ค่อนข้างอ่อนเลยอาจจะทำให้ไม่เห็นชัดหลายๆคนเข้าใจได้ว่าเป็นแมวไม่มีขน
แมวสฟิงซ์มีหุ่นที่ผอมเพียว และมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรง มีดวงตาที่สวยงาม หูแหลมยาวตั้งตรง ผิวบริเวณลำตัวมีรอยย่น เห็นได้ชัดในบริเวณ ลำคอ และขาของแมว ส่วนบริเเวณท้องผิวจะตึง ซึ่งผิวของแมวสายพันธุ์นี้มีหลากหลายสี จุดเด่นหลักๆเลยก็คือ ตัวจะอุ่น เป็นแมวที่มีอุณหภูมิร่างกายสูงกว่าแมวสายพันธุ์อื่นๆ จนได้รับฉายาว่า “กระเป๋าน้ำร้อนเดินได้”
นิสัยของแมวสฟิงซ์
แมวสฟิงซ์ เป็นแมวที่มีนิสัยที่อ่อนโยน ขี้เล่น ร่าเริง ฉลาด แมวขี้อ้อน และมีความกระตือรือล้น เข้ากับเด็กๆได้เป็นอย่างดี เป็นสายพันธุ์ที่ชอบให้เจ้าของกอด อุ้ม และชอบนอนกับเจ้าของ ค่อนข้างที่จะแตกต่างกับแมวสายพันธุ์อื่นๆ เป็นแมวที่เหมาะกับคนที่เป็นภูมิแพ้ขนแมว เป็นสัตว์ที่ไม่ก่อภูมิแพ้ (Hypoallergenic) เหมือนในบรรดาแมวมีขน ดังนั้นคนที่เป็นภูมิแพ้เลี้ยงน้องได้ค่ะ
แมวสฟิงซ์เลี้ยงยากไหม ?
แม้ว่าแมวสฟิงซ์เป็นแมวที่รู้จักในนาม แมวไม่มีขน แต่การเลี้ยงแมวสายพันธุ์นี้นั้นจะต้องดูแลขนเป็นพิเศษ เพื่อที่จะทำให้ผิวหนังสะอาดและแข็งแรงอยู่เสมอ ซึ่งในหัวข้อนี้เราจะมาแนะนำถึงวิธีการเลี้ยงน้องแมวสฟิงซ์ง่ายๆ มือใหม่ก็เลี้ยงได้ ดังต่อไปนี้ค่ะ
- แมวสฟิงซ์ เป็นแมวที่ผลิตน้ำมันจากผิวหนังตามธรรมชาติ ด้วยลักษณะที่เป็นแมวขนค่อนข้างสั้นและบาง จึงทำให้ไม่มีขนกระจายน้ำมันเท่าที่ควร อาจจะเกิดสกปรกได้ง่ายมากๆ ดังนั้นแล้วเจ้าของจะต้องหมั่นทำความสะอาด และใส่ใจเป็นพิเศษ อาบน้ำให้น้องทุกๆ 1-4 สัปดาห์นะคะ
- แมวสฟิงซ์ ด้วยลักษณะเป็นแมวที่ขนบาง ดังนั้นเจ้าของจะต้องเลี่ยงการออกนอกบ้านหรือบริเวณกลางแจ้งในขณะที่แดดจัด หรือร้อนจนเกินไป อาจจะส่งผลต่อน้องทำให้ผิวไหม้
- เป็นแมวสายพันธุ์ที่ไม่ทนต่อสภาพอากาศที่หนาวเย็น ไม่เหมือน แมวเปอร์เซีย แมวอื่นๆที่มีขน จำเป็นที่จะต้องเลี้ยงในบ้านเท่านั้น ถ้าหากไม่สะดวกไม่แนะนำให้เลี้ยงแมวสายพันธุ์นี้
โดยทั่วไปแล้วแมวแต่ละสายพันธุ์มีวิธีการเลี้ยงดูที่ค่อนข้างแตกต่างกันออกไป หากพี่ๆสนใจอยากเลี้ยงแมว ต้องแนะนำเลยว่าให้ศึกษาลักษณะนิสัย วิธีการเลี้ยงดู ของแมวแต่ละสายพันธุ์ให้ถีถ้วนก่อนตัดสินใจ เพื่อให้ตรงตามบุคลิกของผู้เลี้ยงเอง จะได้ไม่มีปัญหาตามมาภายหลังค่ะ
ต้นกำเนิดแมวพันธุ์สฟิงซ์
สฟิงซ์ ชื่อที่ถูกตั้งขึ้นตามลักษณะของแมวแห่งยุคอียิปต์โบราณ มีรูปลักษณ์ที่สง่าและโดดเด่น ประหนึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงของฟาโรห์ แต่จริงๆแลวสฟิงซ์เป็นแมวที่มีต้นกำเนิดมาจากเมืองโทรอน ประเทศแคนนาดา พบครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1966 เกิดจากการที่เจ้าของฟาร์มแมวชื่นชอบแมวที่มีขนสั้น จึงเป็นจุดเริ่มต้นในการเพาะพันธุ์แมวสายพันธุ์นี้
หลังจากนั้นแมวสฟิงซ์ก็ได้รับความนิยมเลี้ยงมากขึ้นในสหรรัฐอเมริกา และทำให้นักเพาะพันธุ์นำไปพัฒนาต่อจนได้ยีนต์ที่ดีขึ้นเรื่องๆ ต่อมาก็ได้แพร่ความนิยมไปยังทั่วทั้งยุโรป และรวมถึงในไทยด้วย นอกจากนี้แมวสฟิงซ์ยังได้รับการขึ้นทะเบียนกับสมาคมแมวโลกหรือ Cat Fanciers Association (CFA) เมื่อปี 2002
โรคที่ต้องระวัง
แมวสฟิงซ์เป็นสายพันธุ์แมวที่มีความเสี่ยงต่อโรคบางชนิดมากกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ เนื่องจากมีผิวที่บอบบางและไม่มีขน โรคที่ต้องระวังแมวสฟิงซ์ ได้แก่
- โรคหัวใจ เช่น โรคกล้ามเนื้อหัวใจหนา (hypertrophic cardiomyopathy, HCM) และโรคกล้ามเนื้อหัวใจห้องขยายใหญ่ (dilated cardiomyopathy, DCM) โรคเหล่านี้อาจทำให้แมวเหนื่อยล้า หายใจลำบาก และเสียชีวิตได้
- โรคผิวหนัง เช่น โรคผิวหนังอักเสบจากภูมิแพ้ (atopic dermatitis) และโรคผิวหนังอักเสบจากปรสิต (parasitic dermatitis) โรคเหล่านี้อาจทำให้แมวคัน ผิวแห้ง และขนร่วง
- โรคทางระบบทางเดินอาหาร เช่น โรคลำไส้แปรปรวน (irritable bowel syndrome, IBS) และโรคตับอ่อนอักเสบ (pancreatitis) โรคเหล่านี้อาจทำให้แมวท้องเสีย อาเจียน และน้ำหนักลด
- โรคทางระบบทางเดินปัสสาวะ เช่น โรคนิ่วในไต (kidney stones) และโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ (cystitis) โรคเหล่านี้อาจทำให้แมวปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะลำบาก และปวดปัสสาวะ
เจ้าของแมวสฟิงซ์ควรพาแมวไปตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี เพื่อตรวจหาโรคที่อาจเกิดขึ้นได้ การรักษาโรคเหล่านี้ตั้งแต่เนิ่นๆ อาจช่วยยืดอายุขัยและคุณภาพชีวิตของแมวได้
ราคาแมวสฟิงซ์
- แมวสฟิงซ์ขายาว หูตั้ง ราคาเริ่มต้น 25,000 บาท
- แมวสฟิงซ์ขาสั้นหูตั้ง ราคาเริ่มต้นที่ 40,000 บาท
- แมวสฟิงซ์ขาสั้นหูพลิก ราคาเริ่มต้นที่ 70,000 บาท
- แมวสฟิงซ์สีขาว หรือสีพื้นฐานอื่น ๆ ขาวยาว หูตั้ง ราคาเริ่มต้นที่ 25,000 บาทขึ้นไป
- แมวสฟิงซ์สีดำ ซึ่งหายากขึ้นมาหน่อย ราคาเริ่มต้น 30,000 บาทหรือแพงกว่านี้ ขึ้นอยู่กับฟอร์ม
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติม : cutie-cats.com
