แมวเปอร์เซีย

ประวัติความเป็นมาของแมวเปอร์เซีย

แมวเปอร์เซีย (Persian cat) เป็นพันธุ์แมวที่มีต้นกำเนิดมาจากการพัฒนาพันธุ์ของมนุษย์ที่ค้นพบครั้งแรกอยู่ที่เมือปี 1,600 ในหุบเขาของเปอร์เชียเป็นที่กึ่งกลางระหว่างประเทศตุรกีและอิหร่าน เป็นจุดเริ่มต้นของที่มาของชื่อแมวเปอร์เชียตามถิ่นเกิดนั้นเอง ได้ถูกนำไปเลี้ยงที่ยุปโรปคนในราชวงศ์และขุนนางนิยมเลี้ยงกัน และในปัจจุบันน้องแมวเปอร์เซียก็ได้รับความนิยมจากคนทั่วโลก และประเทศไทยเองก็ได้นำเข้าแมวเปอร์เชียเป็นแมวที่นำเข้ามาจากต่างประเทศพันธุ์แรก ด้วยนิสัยที่รักสงบ ไม่ดื้อ และอ้อนแบบสุดๆ ทาสคนไหนก็ต้องตกหลุมรักเจ้าเปอร์เชียอย่างแน่นอน

นิสัยและลักษณะแมวเปอร์เซียที่ทาสต้องตกหลุมรัก

แมวเปอร์เซีย

จุดเด่นที่สำคัญของแมวเปอร์เซียจะลักษณะหน้าที่กลมหูเล็ก จมูกแบน ปากที่สั้น มีขนที่มันวาวที่ฟูยาวหนา ลักษณะนิสัยจะเป็นแมวที่ขี้อ้อน เข้ากับคนได้ง่าย ทำให้มนุษย์ทั้งหลายต้องตกเป็นทาสของเจ้าเหล่าบรรดาแมวเปอร์เชียจำนวนมาก และเขาจะมีนิสัยที่รักเจ้าของและไม่ชอบความวุ่นวาย ถือว่าเป็นแมวที่มีความรักสงบเป็นอย่างมาก เป็นมิตรกับเด็กๆ และใครที่พบเจอก็ต้องตกหลุมรักเปอร์เซีย สำหรับคนที่กำลังมองหาข้อมูลสังเกตว่าแมวเปอร์เซียพันธุ์แท้มีลักษณะ ดังนี

  • ลักษณะของใบหน้าที่จะกลม ตาจะโต และจมูกจะแบนสั้น
  • ลักษณะของขน ที่จะฟูยาวทั้งตัวมีความเงา หางยาวและมีขนฟูสลวย
  • ลักษณะของขนาดจะสั้นตัว แมวเปอร์เชียจะมีน้ำหนักประมาณ 6 กิโลกรัม

สถานที่เลี้ยงที่เหมาะกับแมวเปอร์เชีย

ด้วยนิสัยของน้องแมวเปอร์เซียที่จะรักสงบไม่ชอบสถานที่มีเสียงดังชอบอยู่คนเดียวได้ เหมาะสำหรับคนที่มีพื้นที่ให้แมวขนาดเล็ก เลี้ยงในห้องที่แคบหรือคอนโดได้ เพียงแค่มีมุมให้น้องดูวิวและที่ให้เขาได้นอนเล่นเท่านั้น แต่น้องแมวเปอร์เซียเขาจะไม่ชอบการย้ายที่อยูหรือเปลี่ยนสถานที่บ่อยๆ หรือสถานที่เสียงดังที่น้องเปอร์เชียไม่ชอบเป็นอย่างมาก น้องแมวเปอร์เซียอาจจะมีอาการที่เครียดจะไม่กินข้าวไม่ได้เลยและบางตัวอาจจะถึงขั้นอ้วกได้ และสิ่งสำคัญในการเลี้ยงเปอร์เชียควรเลี้ยงระบบปิดภายในบ้าน เพื่อป้องกันโรคที่จะตามมาโดยลักษณะจมูกน้องที่มีขนาดสั้น จึงทำให้เป็นแมวที่มีโรคพันธุ์กรรมทางเดินหายใจ คุณต้องใส่ใจในการดูและความสะอาดเป็นพิเศษ

อาหารที่แมวเปอร์

แมวเปอร์เซีย

สำหรับการเลี้ยงแมวเปอร์เซียนั้นต้องใส่ใจในเลี้ยงอาหารเป็นอย่างมาก แมวพันธุ์นี้จะชอบป่วยในโรคทางเดินหายใจ และทางเดินอาหาร ควรทำความสะอาดถาดใส่อาหาร และเปลี่ยนน้ำให้ทุกวัน และการให้อาหารทั้งแบบเม็ดและอาหารเปี้ยกที่สลับกันไปได้ให้เป็นเวลา เช้า-เย็น วันล่ะ 2 ครั้งเท่านั้นไม่ควรให้กินแบบทั้งวัน เพราะเสี่ยงต่อโรคอ้วน และระบบการย่อยของน้องแมวอีกด้วย

วิธีการป้องกันและสังเกตโรคแมวเปอร์เซียที่คุณต้องควรรู้

โดยลักษณะของแมวเปอร์เซียที่มีจมูกที่สั้นและบีบแคบทำให้หายใจลำบาก ทำให้มักจะเป็นโรคที่เกี่ยวกับพันธุ์กรรมคือทางเดินหายใจ เพราะสิ่งที่สกปรกสะสมในจมูกได้ง่ายกว่าแมวทั่วไป และสิ่งที่สำคัญมากที่สุดของการเลี้ยงแมวเปอร์เชียนั้นคือต้องทำความสะอาดด้วยวิธีการอาบน้ำเดือน 2 ครั้ง และเช็ดใบหูและจมูกกับขี้ตาให้น้องอยู่เสมอ และด้วยแมวเปอร์เชียที่มีขนที่ยาวหนา ควรมั่นหวีขนให้น้องแมวเปอร์เชียวันล่ะ 3 ครั้ง ครั้งล่ะ 15 นาที เน้นช่วงบริเวณหาง ต้นคอ ขาที่น้องไม่สามารถเลียทำความสะอาดเองได้ เพื่อปกกันขนที่พันกันเป็นกระจุกซึ้งเป็นต้นเหตุของโรคผิวหนังหรือที่เรียกกันว่าเชื้อรา

ติดตามข้อมูลเพิ่มเติม : cutie-cats.com